“เทสเตอร์ครีม” เรื่องเล็กที่ไม่เล็ก ก่อนจะควักเงินซื้อของจริง ผิวเราควรได้ลองก่อน!

แบบซอง เป็นรูปแบบของเทสเตอร์ครีมที่พบเห็นได้บ่อยที่สุด มักมาในรูปแบบซองฟอยล์หรือพลาสติกขนาดเล็กที่สามารถฉีกใช้งานได้ง่าย

ขนาด โดยทั่วไปแล้วจะมีปริมาณประมาณ 0.5 กรัม ถึง 3 กรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่เพียงพอต่อการใช้ 1-2 ครั้ง หรือบางผลิตภัณฑ์อาจใช้ได้เพียงครั้งเดียว

ลักษณะ เป็นซองแบน ๆ เล็ก ๆ น้ำหนักเบา

ข้อดี

• พกพาง่าย ด้วยขนาดที่เล็ก ทำให้สะดวกในการพกพาใส่กระเป๋าเดินทาง หรือพกติดตัวไปได้ทุกที่
• ราคาถูก ต้นทุนการผลิตต่ำ ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับแบรนด์ที่ต้องการแจกจ่ายในปริมาณมาก หรือเป็นของแถมโปรโมชั่น
• เหมาะสำหรับการลองใช้เบื้องต้น: ช่วยให้ผู้บริโภคได้ทดสอบเนื้อสัมผัส กลิ่น และอาการแพ้เบื้องต้นได้อย่างรวดเร็ว

ข้อเสีย

• ปริมาณน้อยเกินไป สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ต้องใช้เวลาเห็นผลลัพธ์ เช่น ครีมลดริ้วรอย หรือเซรั่มปรับสภาพผิว ปริมาณเพียงเล็กน้อยอาจไม่เพียงพอที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน
• ไม่สะดวกในการเก็บรักษา หากใช้ไม่หมดในครั้งเดียว การเก็บรักษาอาจทำได้ยากและเสี่ยงต่อการปนเปื้อน

ถัดจากแบบซอง เทสเตอร์ครีม ในรูปแบบหลอดหรือกระปุกขนาดเล็กเป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากให้ปริมาณที่มากกว่าและมีความสะดวกในการใช้งานและจัดเก็บ

ขนาด ปริมาณของเทสเตอร์รูปแบบนี้มีความหลากหลาย ตั้งแต่ 3 กรัม หรือ 3 มิลลิลิตร ไปจนถึง 15-20 กรัม หรือ 15-20 มิลลิลิตร ขึ้นอยู่กับประเภทและราคาของผลิตภัณฑ์

ลักษณะ บรรจุภัณฑ์จะเป็นหลอดบีบ หรือกระปุกที่มีฝาปิด คล้ายกับผลิตภัณฑ์ขนาดจริงแต่ย่อส่วนลงมา ทำให้ดูน่าใช้งานและเป็นระเบียบ

ข้อดี

• ใช้งานและเก็บรักษาสะดวก มีฝาปิดที่มิดชิด ช่วยให้เก็บรักษาผลิตภัณฑ์ได้ดีและสามารถใช้ซ้ำได้หลายครั้งโดยไม่เสี่ยงต่อการปนเปื้อน
• เห็นผลลัพธ์ชัดเจนกว่า ด้วยปริมาณที่มากขึ้น ทำให้ผู้ใช้สามารถทดลองใช้ได้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน หรือเป็นสัปดาห์ ซึ่งเพียงพอที่จะสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงหรือประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ได้อย่างชัดเจน
• มักรวมอยู่ในชุดทดลอง รูปแบบนี้มักจะถูกจัดเป็น "First Trial Kit" หรือ "Travel Size" ที่แบรนด์จำหน่ายเป็นชุดเล็ก ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการทดลองใช้ผลิตภัณฑ์หลายตัวในซีรีส์เดียวกัน หรือเหมาะกับการพกพาสำหรับการเดินทาง

ข้อเสีย

• ต้นทุนสูงกว่าแบบซอง เนื่องจากบรรจุภัณฑ์และการผลิตที่ซับซ้อนกว่า ทำให้มีต้นทุนที่สูงกว่าแบบซองเล็กน้อย

สำหรับผลิตภัณฑ์ประเภทเซรั่ม น้ำตบ หรือของเหลวที่มีความหนืดน้อย เทสเตอร์ครีม ในรูปแบบขวดปั๊มหรือดรอปเปอร์ขนาดเล็กจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด

ขนาด ปริมาณจะอยู่ที่ประมาณ 5 มิลลิลิตร ถึง 15 มิลลิลิตร ซึ่งเพียงพอต่อการทดลองใช้ตามปริมาณที่แนะนำลักษณะ เป็นขวดแก้วหรือพลาสติกขนาดเล็กที่มีหัวปั๊มหรือหลอดหยด เพื่อให้สามารถควบคุมปริมาณการใช้งานได้อย่างแม่นยำ และป้องกันการสัมผัสโดยตรงกับผลิตภัณฑ์

ข้อดี

• สุขอนามัยดีเยี่ยม การใช้หัวปั๊มหรือดรอปเปอร์ช่วยลดการสัมผัสผลิตภัณฑ์โดยตรงด้วยมือ ทำให้มั่นใจในความสะอาดและลดโอกาสการปนเปื้อน
• ควบคุมปริมาณได้ดี เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการใช้ในปริมาณที่แม่นยำ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
• เหมาะกับผลิตภัณฑ์ของเหลว ดีไซน์มาเพื่อรองรับผลิตภัณฑ์ที่มีความเหลวโดยเฉพาะ

ข้อเสีย

• ต้นทุนสูง บรรจุภัณฑ์ประเภทนี้มักมีต้นทุนการผลิตที่สูงกว่ารูปแบบอื่น ๆ ทำให้เทสเตอร์ในรูปแบบนี้อาจหาได้ยากกว่าหรือมีราคาสูงกว่า

เป็นเทสเตอร์ที่ไม่ได้มีไว้สำหรับนำกลับบ้าน แต่มีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจซื้อ ณ จุดขาย

ขนาด โดยปกติจะเป็น ขนาดจริง หรือขนาดใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย เพื่อให้ลูกค้าได้ทดลองใช้ได้อย่างเต็มที่

ลักษณะ วางไว้บนเคาน์เตอร์ขายสินค้าในร้านค้า หรือตามจุดสาธิตผลิตภัณฑ์

ข้อดี

• ลูกค้าได้สัมผัสผลิตภัณฑ์จริง ช่วยให้ลูกค้าได้ลองเนื้อสัมผัส กลิ่น และทดสอบอาการแพ้เบื้องต้นบนผิว เช่น บริเวณหลังมือ หรือข้อพับแขน ได้ทันที
• กระตุ้นการตัดสินใจซื้อ การได้ลองใช้จริง ณ จุดขาย มักจะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น

ข้อเสีย

• ไม่สามารถนำกลับไปลองที่บ้านได้ ผู้บริโภคไม่สามารถนำกลับไปทดลองใช้ต่อเนื่องเพื่อดูผลลัพธ์ในระยะยาวได้
• ความเสี่ยงด้านสุขอนามัย หากไม่มีการดูแลทำความสะอาดและบำรุงรักษาที่ดี เทสเตอร์ประเภทนี้อาจเสี่ยงต่อการปนเปื้อนและไม่ถูกสุขอนามัย

เทสเตอร์ครีมไม่ใช่ของแถมที่หยิบก็ได้ไม่หยิบก็ได้ มันคือสเต็ปแรกของการ เลือกครีมแบบมีสติ ก่อนจะเปย์เงินก้อนกับไซซ์จริง

อย่าปล่อยให้คำว่า “ลองก่อน” เป็นเรื่องฟุ่มเฟือย เพราะผิวของคุณสมควรได้เจอของที่ใช่ แล้วเทสเตอร์ก็คือทางลัดที่จะพาเราไปถึงตรงนั้นได้เร็วขึ้น