อย่ารอให้ริ้วรอยถามหาก่อนจะเริ่มดูแลตัวเอง — เพราะผิวที่แข็งแรงในอนาคต สร้างได้จากการดูแลตั้งแต่วันนี้!
ไม่ว่าจะใช้ผลิตภัณฑ์จากโรงงานผลิตเครื่องสำอาง หรือครีมในกระปุกเล็กๆ ที่แม่ให้มา ทุกอย่างล้วนเป็น “การลงทุนระยะยาว” กับผิวหน้าทั้งนั้น
แต่เดี๋ยวก่อน!
วัยรุ่นหลายคนพอเริ่มใช้สกินแคร์กลับรู้สึกว่า สิวขึ้น ผิวหมอง หน้าพังกว่าเดิม อาการแบบนี้อาจไม่ใช่เพราะหน้าเราพังแต่เพราะ "ใช้ไม่ถูกจริตผิว" หรือดูแลเยอะเกินจนเกราะผิวอ่อนแอไปเลย
สัญญาณที่ต้องหยุดใช้ทันที
- สิวเห่อแบบไม่เคยเป็น
- ผิวลอก แดง แสบ
- รู้สึกว่าหน้าไม่ทนอะไรเลย
ถ้าเกิดอาการเหล่านี้ หยุดทุกอย่าง แล้วให้ผิวพัก ใช้น้ำเปล่าหรือคลีนเซอร์อ่อนโยนอย่างเดียว รอจนผิวกลับมาสมดุล แล้วค่อยว่ากันใหม่ หรือไปพบผู้เชี่ยวชาญดีกว่าเสียเวลาเดาเอง
การดูแลผิวไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด เพียงแค่ทำตาม 3 ขั้นตอนพื้นฐานนี้อย่างสม่ำเสมอ ผิวของทุกคน ก็จะแข็งแรงและสุขภาพดีขึ้นอย่างแน่นอน เป็น 3 ขั้นตอนจำเป็น ที่ช่วยลดการใช้สกินแคร์มากเกินความจำเป็น
สิ่งสำคัญที่สุดคือการล้างหน้าให้สะอาดหมดจด เพื่อขจัดสิ่งสกปรก ความมันส่วนเกิน และเครื่องสำอางที่อุดตันรูขุมขน ควรเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่อ่อนโยน ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือน้ำหอมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง และไม่ควรล้างหน้าบ่อยเกินไป หรือถูหน้าแรงๆ เพราะจะยิ่งกระตุ้นให้ผิวผลิตน้ำมันมากขึ้นและอาจทำลายเกราะป้องกันผิวได้
หลังล้างหน้า สิ่งที่ขาดไม่ได้คือการบำรุงด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ผิว มอยส์เจอไรเซอร์จะช่วยสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง ลดการสูญเสียน้ำ และทำให้ผิวเนียนนุ่มน่าสัมผัส
เลือกมอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิว เช่น ถ้าผิวมันให้เลือกแบบเนื้อเจลหรือโลชั่นบางเบา แต่ถ้าผิวแห้งให้เลือกแบบเนื้อครีมที่เข้มข้นขึ้น
แสงแดด เป็นศัตรูตัวฉกาจของผิวสวย เพราะเป็นสาเหตุหลักของการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ และริ้วรอยก่อนวัยอันควร ดังนั้น การป้องกันแสงแดดด้วยการทากันแดดเป็นประจำทุกวัน แม้ในวันที่อากาศครึ้ม ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และ PA+++ เป็นอย่างน้อย เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB อย่างมีประสิทธิภาพ
การเลือกสกินแคร์ที่ถูกต้องเหมาะสมกับสภาพผิวของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน เพราะสกินแคร์ที่ดีที่สุดคือสกินแคร์ที่ "ใช่" สำหรับผิวเรา
ทดสอบก่อนใช้จริงบนใบหน้า
ก่อนที่จะนำผลิตภัณฑ์ใหม่มาใช้กับผิวหน้าโดยตรง ควรทดสอบก่อนใช้กับหน้าเสมอ ด้วยการทาผลิตภัณฑ์เล็กน้อยบริเวณท้องแขนหรือหลังใบหู ทิ้งไว้ประมาณ 24-48 ชั่วโมง เพื่อดูว่ามีอาการแพ้ ผื่นแดง หรือคันหรือไม่ หากไม่มีอาการผิดปกติใดๆ จึงค่อยนำมาใช้กับใบหน้า
อ่านฉลากข้างขวดให้ละเอียด
การอ่านฉลากข้างขวดอย่างละเอียดเป็นอีกหนึ่งทริคสำคัญที่หลายคนมองข้าม ฉลากจะบอกข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับส่วนผสม วิธีใช้ วันหมดอายุ และข้อควรระวังต่างๆ
การทำความเข้าใจส่วนผสมจะช่วยให้เราหลีกเลี่ยงสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือแพ้ได้ โดยเฉพาะสำหรับน้องๆ ที่ผิวแพ้ง่าย
ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่า
“Fragrance-free” = ไม่มีน้ำหอม
“Alcohol-free” = ปราศจากแอลกอฮอล์
“Non-comedogenic” = ไม่อุดตันรูขุมขน
ไม่ต้องใช้ของแพง ไม่ต้องตามเทรนด์ แค่เลือกให้เหมาะกับผิวและใช้ต่อเนื่องอย่างถูกวิธี
เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ ผิวจะขอบคุณเราในอนาคตแน่นอน
และจำไว้ว่า...ผิวที่ดีไม่ใช่ผิวที่ขาวที่สุด แต่คือผิวที่สุขภาพดีที่สุดในแบบของเราเอง