ธุรกิจครีมยังรุ่งหรือร่วง? เมื่อโลกหมุนไวด้วย AI และออนไลน์

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราเห็นครีมและกระปุกครีมเกิดใหม่เป็นดอกเห็ด พร้อมๆ กับการปิดตัวของอีกหลายรายที่ไม่อาจสู้กระแสตลาดดิจิทัลและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงเร็วมากอย่างไม่เคยมีมาก่อน คำถามคือ “ธุรกิจครีมยังไปต่อได้ไหม?” คำตอบคือได้แน่นอน แต่ไม่ใช่ในรูปแบบเดิมๆ อีกต่อไป เพราะปัจจุบัน AI และออนไลน์กลายเป็นเครื่องมือที่เปลี่ยนแนวรบจากหน้าร้านไปสู่หน้าจอ และจากโปรโมชั่นราคาถูกไปสู่การสร้างแบรนด์ด้วย “ประสบการณ์” และ “คอนเทนต์”

หลายคนกลัวว่า AI จะมาแทนที่ความคิดสร้างสรรค์หรือการตลาดแบบมนุษย์ แต่ในความจริงแล้ว AI เป็นได้ทั้งผู้ช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า สร้างสูตรผลิตภัณฑ์เฉพาะบุคคล ไปจนถึงแชทบอทอัจฉริยะที่ตอบลูกค้าได้ 24/7 แบบไม่หลับไม่นอน แบรนด์ที่รู้จักใช้ AI อย่างชาญฉลาดจึงมีโอกาสเข้าถึงลูกค้าได้ตรงใจและเร็วกว่าใครในตลาด

ยุคนี้แค่มีครีมดีอย่างเดียวไม่พอ แต่ต้องมี “เรื่องราว” และ “ตัวตน” ที่ชัดเจน เพราะผู้บริโภคไม่ได้ซื้อแค่ผลิตภัณฑ์ แต่ซื้อคุณค่าและไลฟ์สไตล์ แบรนด์ครีมที่ประสบความสำเร็จในยุคนี้มักเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์เข้ากับภาพลักษณ์ ไลฟ์สไตล์ หรือแม้แต่ประเด็นสังคม เช่น ความยั่งยืน ความปลอดภัย หรือความเท่าเทียม จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะเห็น Influencer กลายเป็นเจ้าของแบรนด์ครีมมากขึ้น เพราะ “ตัวตน” คือแบรนด์ และแบรนด์คือ “เรื่องเล่า” ที่ผู้คนอยากเป็นส่วนหนึ่ง

แม้จะมีการแข่งขันสูง แต่ตลาดความงามยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับโลก โดยเฉพาะในตลาดออนไลน์ที่ไร้พรมแดน แบรนด์เล็กๆ ก็สามารถขายของได้ทั่วโลกผ่าน TikTok, Instagram, หรือแม้แต่การไลฟ์สดบนแพลตฟอร์ม E-commerce ดังนั้นสิ่งที่ต้องโฟกัสคือการรู้จัก “กลุ่มเป้าหมายให้ลึก” และใช้เทคโนโลยีมาช่วยยิงคอนเทนต์ให้ตรงจุด ไม่ใช่หว่านแบบแมสๆ เหมือนแต่ก่อน

ธุรกิจครีมและกระปุกครีมยังไม่ตาย แถมยังมีโอกาสโตมากกว่าที่เคย ถ้าผู้ประกอบการกระปุกครีมรู้จักปรับตัวให้ทันโลกดิจิทัล เข้าใจพลังของ AI และใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เป็นมากกว่าแค่ “ที่ขายของ” แต่เป็น “สนามสร้างแบรนด์” และ “พื้นที่เล่าเรื่อง” เพราะสุดท้ายแล้ว แบรนด์ที่รอดไม่ใช่แค่แบรนด์ที่ขายดี แต่คือแบรนด์ที่ “เชื่อมโยงกับใจผู้คน” ได้ดีที่สุดต่างหาก