เคยไหม? ทำงานออกแบบไปแล้ว ลูกค้ากลับบอกว่า “ไม่ใช่แบบที่อยากได้” สุดท้ายก็แก้งานวนไปหลายรอบ ทั้งเสียเวลาและต้นทุน
ปัญหานี้ไม่ได้เกิดเฉพาะกับนักออกแบบกราฟิกเท่านั้น แต่ยังเกิดกับ นักออกแบบ UX/UI, นักออกแบบเว็บไซต์, นักออกแบบแฟชั่น หรือแม้แต่งานเล็กๆ อย่างออกแบบโลโก้ก็หนีไม่พ้น
ความจริงแล้ว “การบรีฟงานให้ครบตั้งแต่ต้น” คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้งานตรงใจและจบได้ภายใน 2–3 รอบแก้เท่านั้น ยกตัวอย่างเช่นการ รับทำเว็บคลินิค หากลูกค้าให้ข้อมูลไม่ครบตั้งแต่แรก ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างเพจ, เนื้อหา, หรือ mood & tone ของเว็บไซต์ สุดท้ายก็ต้องแก้ไปมาไม่รู้จบ
มาดูกันว่า Checklist ของการบรีฟงานที่ “ครบ” ต้องมีอะไรบ้าง
LESSON 01 : Checklist บรีฟงานสำหรับนักออกแบบ
พื้นฐานที่หลายคนมองข้าม
- ชื่อแบรนด์ / ชื่อสินค้า / ชื่อโปรเจกต์
- ประเภทงาน (เว็บไซต์ / Application / Packaging / เสื้อผ้าหรือแฟชั่น)
- ขนาดหรือสเกลของงาน เช่น เว็บไซต์ 5 หน้า, บรรจุภัณฑ์ ขนาดบรรจุ 30 กรัม เป็นต้น
ข้อมูลนี้จำเป็น เพราะนักออกแบบต้องวางโครงสร้างหรือ Layout ตามพื้นที่จริง เช่นเดียวกับการ รับทำเว็บคลินิค ถ้าไม่รู้จำนวนเพจและบริการที่จะใส่ตั้งแต่ต้น โอกาสผิดทางสูงมาก
ไฟล์ที่ใช้ควรเป็น Vector (AI, PDF) หรือ PNG ความละเอียดสูง ไม่ใช่ JPG แตกๆ เพราะจะส่งผลกับงานจริง ไม่ว่าจะเป็นป้ายหน้าร้าน, เว็บไซต์, หรือบรรจุภัณฑ์
ดีไซน์บนหน้าจออาจไม่เหมือนของจริง ลูกค้าควรระบุชัดเจนว่า
- ใช้รหัสสี Pantone หรือ CMYK (สำหรับงานพิมพ์)
- Mood & Tone อยากได้หรูหรา มินิมอล หรือสดใส
- ต้องการสีพิเศษ เช่น เมทัลลิก ฟอยล์ หรือไม่
หากเป็นงาน รับทำเว็บคลินิค ที่ต้องชัดเจนว่าต้องการโทนสีเรียบหรูดูน่าเชื่อถือ หรือโทนสดใสที่เข้าถึงง่าย ถ้าไม่ระบุ Mood Board เอาไว้ ดีไซเนอร์ก็อาจคิดหลุดกรอบที่ลูกค้าต้องการได้
หากคุณคือลูกค้า ต้องระบุว่าอยากให้ชิ้นงานแสดงผลตรงไหนบ้าง
- เว็บไซต์ : หน้าแรก, หน้าเกี่ยวกับเรา, หน้าโปรโมชั่น , หน้าบริการต่างๆ
- แอปฯ : หน้า Login หรือ Dashboard
- บรรจุภัณฑ์ : สกรีนข้อความและภาพ ที่ ด้านหน้า / รอบกระปุก / บนฝา
ตัวอย่างชัดเจนคือ งานสกรีนกระปุกครีม ถ้าไม่ระบุตำแหน่งสกรีน อาจทำให้โลโก้เล็กเกินไป หรือองค์ประกอบล้นขอบ → แก้งานยาวแน่นอน
ในหลายอุตสาหกรรม มีข้อความที่ “จำเป็นต้องมี” เช่น
- เว็บไซต์คลินิก: รายละเอียดบริการ, ใบอนุญาต, ที่อยู่ติดต่อ(ที่สามารถติดต่อได้)
- บรรจุภัณฑ์: ปริมาณสุทธิ, เลข อย., วิธีใช้งานสินค้า
- เสื้อผ้า: ข้อความ care label
ถ้าลูกค้าไม่แจ้งตั้งแต่แรก พอใกล้ผลิตจริงถึงค่อยมาเพิ่ม ขอบอกเลยว่าได้แก้กันยกใหญ่แน่นอน เช่นเดียวกับเวลา รับทำเว็บคลินิค ถ้าไม่บอกว่าจะมีระบบจองคิวหรือไม่ ก็ต้องกลับมาแก้โครงสร้างเว็บใหม่ทั้งหมด
ไม่ว่างานออกแบบ จะสวยมากแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าตัวหนังสืออ่านไม่ออกก็จบ ลูกค้าควรบอกว่าอยากได้ฟอนต์แนวไหน (หรูหรา, มินิมอล, สนุกสนาน) และนักออกแบบจะต้องให้ความสำคัญกับข้อความหลักที่ต้องอ่านง่าย
เรื่องเวลาและสเกลงานเป็นตัวกำหนดความเร่งด่วน นักออกแบบจะได้จัดคิวให้เหมาะสม เช่น เว็บไซต์ที่มี 5 หน้า กับเว็บไซต์ 20 หน้า ย่อมใช้เวลาไม่เท่ากัน เช่นเดียวกับ งานแฟชั่นที่มีเสื้อ 1 คอลเลกชันกับ 10 คอลเลกชัน
การแก้งานไม่รู้จบ ส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากนักออกแบบไร้ฝีมือ แต่เกิดจาก “การบรีฟไม่ครบตั้งแต่ต้น” ไม่ว่าจะเป็นงานกราฟิก UX/UI แฟชั่น หรือแม้แต่การ รับทำเว็บคลินิค ที่ต้องเก็บรายละเอียดครบทั้งโครงสร้างเว็บ เนื้อหา และฟังก์ชัน
การใช้ Checklist บรีฟงานตั้งแต่แรก จะช่วยให้นักออกแบบเข้าใจโจทย์ตรงกัน ลูกค้าได้งานที่ถูกใจ จบไวภายใน 2–3 รอบแก้เท่านั้น และไม่เสียทั้งเวลาและต้นทุนไปโดยเปล่าประโยชน์